วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

CHAPTER 4 || secret [SOONCHAN CUT]


            CHAPTER 4
            SOONCHAN CUT





            (ขอให้มีความสุขแล้วก็.. หวังว่าพี่จะมีคำอธิบายดีๆ สำหรับเรื่องเสียงแฟนพี่ที่คุ้นหูผมซะจริงเลยนี่ด้วยนะครับ)



          ชานเม้มปากแน่นเมื่อได้ฟังคำพูดก่อนวางสายของเด็กมัธยมปลายตัวแสบ พยายามออกแรงขืนคนบนร่างที่กดข้อมือเขาไว้กับผืนเตียงแต่ก็ไม่สำเร็จ มันไม่ได้ทำให้พี่ซูนยองขยับตัวเลยด้วยซ้ำ

            สันจมูกโด่งของคนเป็นพี่ที่คลอเคลียอยู่กับผิวขาวของเขาและเสียงลมหายใจหนักๆ นั่นทำให้รู้สึกวูบวาบไปทั่วร่างได้อย่างง่ายดาย และก็เป็นเพราะคนตรงหน้าคือควอนซูนยองที่รู้จักทุกส่วนในร่างกายของชานยิ่งกว่าตัวเขานั่นเอง...

            “ทำงานมานึกว่าจะเหนื่อยซะอีก... คึกแทนหรอกเหรอ..

            ชานถามออกไปเสียงเบาเมื่อร่างสูงโปร่งผละออกจากซอกคอเขาแล้วเลื่อนมือมาปลดกระดุมชุดนอนสีดำตัวโคร่งที่คนตัวเล็กใส่อยู่ พี่ซูนยองชอบพูดว่าสีผิวเขาเหมาะกับเสื้อผ้าสีเข้ม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหมาะหรือชอบเห็นชานใส่กันแน่...

            ควอนซูนยองในชุดนอนสีเข้มแบบเดียวกันยังคงสบตาเขาในทุกกระบวนการที่ทำ สายตาที่จ้องมาราวกับจะกลืนกินนั้นทำให้คนตัวเล็กต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อน แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่คนเป็นพี่จงใจเหลือกระดุมตรงกลางเสื้อเอาไว้สองเม็ด แล้วค่อยๆ เลื่อนคอเสื้อนอนของชานลงมากองอยู่ที่ข้อศอกโดยได้รับความร่วมมือจากคนใต้ร่างเป็นอย่างดี ก่อนที่ร่างโปร่งจะโน้มหน้าลงมาหาอีกครั้ง

            ผิวขาวเนียนของชานยังคงเป็นอย่างเดียวที่ซูนยองอยากจะฟัดให้ผิวนุ่มนิ่มนี่เกิดรอยแดงเพราะเขา คนเป็นพี่ใช้ริมฝีปากขมเม้มที่บริเวณไหปลาร้าจนขึ้นรอยสีกุหลาบขึ้นสองสามจุด ใช้สองมือกดแขนเล็กไว้กับพื้นเตียงนุ่มขณะกดจูบไล่ลงมาจนผ่านยอดอกสีหวานของร่างบาง และเขาก็อดไม่ได้ที่จะตวัดลิ้นผ่านให้ได้ยินเสียงครางอย่างอ่อนแรงจากอีกฝ่าย

            “อา.. พอได้แล้วน่า...”ชานพูดเสียงเบาพร้อมกับกำผ้าปูที่นอนสีขาวแน่น และท่าทางนั้นก็ทำให้คนกระทำหลุดยิ้มออกมา ซูนยองกดจูบลงตรงกลางอกที่ทำให้รู้ได้ถึงเสียงหัวใจเต้นของคนตัวเล็กกว่า เลื่อนมือที่เคยจับแขนเล็กไว้มาจับที่บริเวณเอวคอด ลูบไล้ผิวขาวเนียนนั่นยังมันมือในขณะที่เด็กตัวเล็กยังคงกัดฟันแน่นเพราะเริ่มรู้สึกตามไปมากขึ้นเรื่อยๆ

            แตกต่างกับเขาที่แค่เห็นร่างขาวๆ นี้มานอนอยู่ใต้ร่างก็มีอารมณ์แล้ว..

            ร่างสูงโปร่งลากมือลูบโคนขาอ่อนผ่านกางเกงขายาวตัวบาง ใช้นิ้วเกี่ยวยางยืดที่ขอบกางเกงแล้วดึงมันลงไปไว้ที่เข่าด้วยมืดเดียว และชานก็เป็นคนที่ค่อยๆ ถีบมันทิ้งให้ออกจากเรียวขาขาวไปอย่างรวดเร็ว

            กายบางเหลือแค่เพียงเสื้อนอนสีเข้มและกางเกงชั้นในที่อยู่บนร่าง ในขณะที่ซูนยองเองยังมีเสื้อผ้าครบทุกชิ้น มือใหญ่ลูบไล้เรียวขาขาว ลากผ่านส่วนอ่อนไหวที่กำลังนูนขึ้นเพราะความกระสันอย่างหยอกล้อและมันก็ทำให้ได้ยินเสียงครางแผ่วมาจากคนตัวเล็ก จนถึงตอนที่เขานวดคลึงส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายผ่านกางเกงชั้นใน คนเป็นพี่ถึงได้ยินเสียงหวานนั่นร้องออกมาอย่างเต็มเสียงเสียที

            “อ๊ะ... ซูนยอง.. อย่า..

            “อย่าอะไรกัน มาถึงขนาดนี้แล้วยังเขินกันอยู่อีกเหรอหืม?”ซูนยองถามออกไปเสียงเบาเมื่อเด็กตัวเล็กยื่นมือมาจับข้อมือเขาไว้ ขาขาวหนีบเข้าหากันขณะที่ร่างกายบิดเร่าไปมาเพราะความเสียวซ่าน ส่วนอ่อนไหวในมือเขากำลังค่อยๆ แข็งขืนขึ้นตามอารมณ์ของร่างบาง และมันก็ทำให้เขาอยากแกล้งเด็กคนนี้มากขึ้นไปอีก

            “น ไหนบอกว่า.. อื้อ.. ไม่ฟันเด็กไม่สบายไง อ๊ะ..”ชานร้องออกมาเสียงเบาเมื่อกางเกงชั้นในถูกคนเป็นพี่รูดลงไปตามเรียวขา มือใหญ่กอบกุมส่วนกลางลำตัวเขาโดยไร้ปราการได้ขวางกั้น และมันก็ทำให้เด็กขี้บ่นหยุดพูดแล้วเปลี่ยนไปครางไม่เป็นภาษาได้ในเสี้ยววินาที

            ผิวขาวเนียนขึ้นสีแดงอ่อนเพราะความต้องการ เสียงหอบหายใจดังประสานกับเสียงครางหวานนั่นได้อย่างไพเราะจนคนฟังอย่างเขาได้แค่ยิ้มออกมาอย่างนึกพอใจ

            “ก็หายแล้วนี่?”

            “อะ.. อื้อ.. เร็วไป..

            “เสียงก็ไม่ได้แหบแล้วด้วย จะมาว่าฉันเอาคนป่วยไม่ได้แล้วนะ”

            ชานเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น จิกผ้าปูที่นอนจนเป็นรอยยับยู่ยี่ ไม่มีแรงขืนในตอนที่คนเป็นพี่แยกขาเขาออกแล้วแทรกตัวเข้าไปตรงกลาง เพราะระหว่างนั้นมือของซูนยองก็ยังทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง  แต่ถึงแม้จะกำลังถูกปรนเปรอที่ส่วนกลางลำตัวจนแทบสติหลุด อีกฝ่ายก็ยังทำให้เขาอายขึ้นไปอีกด้วยการแทรกนิ้วเรียวยาวเข้ามาในปากเขา

            กลีบปากบางอ้ารับมันเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ดูดดุนและตวัดลิ้นเลียให้นิ้วนั่นชุ่มน้ำลายเพราะรู้ดีว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไร ชานส่งเสียงค้านในลำคอออกมาเสียงเบาเมื่อคนเป็นพี่ชักนิ้วเข้าออกในโพรงปากเขาทั้งที่มืออีกข้างก็กำลังขยับรูดรั้งแก่นกายให้อยู่ ก่อนจะช้อนสายตามองดวงตารีเล็กที่ยังคงจ้องมองมายังเขาอย่างหื่นกระหายเหมือนทุกที

            “อึก.. อา..”ร่างเล็กผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียดเมื่อในที่สุดอีกคนก็ถอนนิ้วออกไปจากปากเขาและก็หยุดแกล้งชานด้วยมืออีกข้างเสียที เด็กน้อยใช้เวลานั้นในการกอบโกยอากาศหายใจให้ได้มากที่สุดก่อนที่ควอนซูนยองจะพรากมันไปอีกครั้ง และไม่นานเอวบางก็ถูกยกขึ้นจากพื้นเตียงโดยมีขาข้างหนึ่งพาดไหล่กว้างของคนโตกว่าไว้

            ชานกัดฟันแน่นเมื่อรู้สึกได้ถึงมือของอีกคนที่นวดคลึงบริเวณช่องทางด้านหลัง กลั้นเสียงครางที่อาจจะเล็ดรอดออกมาให้โดนล้ออีกเมื่อพี่ซูนยองกำลังจัดการกลับจุดไวต่อความรู้สึกของเขา ก่อนจะต้องทำหน้าเหยเกเมื่อคนเป็นพี่แทรกสองนิ้วแรกเข้ามาในช่องทางโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

            “เจ็บ...

            “กำลังค่อยๆ ทำอยู่ครับ”เสียงทุ้มที่ก้มลงมากระซิบข้างหูทำให้ชานได้แต่สูดหายใจเข้าอย่างพยายามตั้งสติเมื่ออีกคนแทรกนิ้วที่สองเข้ามา แล้วจึงค่อยๆ ขยับเข้าออกเพื่อให้เขาได้ปรับสภาพร่างกายหลังจากไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้มานาน

            ไม่รู้หรอกว่านานแค่ไหน แต่ก็นานพอให้คนเซ็กส์จัดอย่างเขาไม่ชินได้ก็แล้วกัน

            “อะ.. อย่าแรงได้ไหม..

            “เจ็บหรือเสียวกันแน่ล่ะหืม?”

            “อื้อ พี่ซูนยอง... อ๊ะ”ชานหลับตาแน่นเมื่อปลายนิ้วเรียวไปโดนเข้ากับจุดกระสันภายในและอีกคนก็ดันแกล้งกดย้ำที่จุดเดิมเมื่อเห็นว่าเขามีปฏิกิริยากับมัน “เลิกแกล้งสักที... มัน..

            ซูนยองแค่นยิ้มออกมาขณะจ้องมองใบหน้าขาวที่เวลานี้ดูเซ็กซี่เหลือเกิน ขยับนิ้วที่อยู่ภายในร่างกายเด็กตัวเล็กเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนได้เห็นอีกคนกัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นเสียงร้องเอาไว้ ชานเวลาปกติก็ทำให้อยากกอดฟัดจะแย่แล้ว แต่เจ้าเด็กดื้อในเวลานี้ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบ

            ยิ่งเห็นอีกคนกลั้นเสียงคราง ก็ยิ่งน่าจับกระแทกให้ร้องออกมาดังๆ จริงๆ...

          ร่างสูงโปร่งถอนนิ้วออกมาจากช่องทางของเด็กตัวเล็กที่นอนถ่างขาออกกว้างอยู่ตรงหน้า กางเกงนอนขายาวที่ใส่อยู่ถูกถอดออกไปพร้อมกับกางเกงชั้นใน เผยให้เห็นแก่นกายที่กำลังขยายใหญ่ขึ้นในห้วงอารมณ์นี้ ซูนยองจับเอวบางของชานไว้ด้วยสองมือ ถูไถส่วนกลางลำตัวผ่านภายนอกช่องทางอย่างหยอกล้อและก็ทำให้ร่างบางบิดเร่าไปมาอย่างทรมาน

            “อ๊า...”ชานส่งเสียงครางออกมาแผ่วเบาเมื่อเขาค่อยๆ แทรกกายเข้าไปในตัวของอีกคนอย่างใจเย็น ร่างเล็กกัดริมฝีปากล่างตัวเองแน่นจนซูนยองต้องเอื้อมมือไปเกลี่ยนิ้วบอกให้หยุดแล้วกดจูบลงบนริมฝีปากบางอย่างปลอบประโลม และเด็กตัวเล็กก็ดูจะปรับตัวได้อย่างง่ายดายถึงได้เป็นฝ่ายขยับตัวเบียดเข้ามาใกล้เขาด้วยตัวเอง “อะ.. อา..

            “เด็กลามก”

            “อื้อ.. ก ก็เพราะใครล่ะ”เสียงอ่อยๆ ที่พูดอย่างประชดประชันนั้นทำให้ซูนยองหมั่นเขี้ยวจนกัดริมฝีปากบางไปเบาๆ หนึ่งที จับมือของชานขึ้นมาโอบรอบคอเขาไว้แล้วเริ่มขยับตัวกระแทกเข้าหาสะโพกบางที่อ้ารับเขาอยู่ตอนนี้

            เสียงอันหยาบโลนของเนื้อกระทบเนื้อและเสียงครางของคนใต้ร่างเป็นอย่างเดียวที่ได้ยินเมื่อถูกอย่างรอบตัวดูจะขาวโพลนไปหมด ควอนซูนยองไม่ได้ขยับตัวเข้าหาถี่รัวนัก แต่ทุกครั้งที่อีกคนถอนมันออกไปจนหลุดแล้วใส่เข้ามาจนสุดทางก็ทำให้ชานหลุดครางออกมาหลายครั้งต่อหลายครั้งเช่นกัน เสียงหอบหายใจของคนเป็นพี่ที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ใบหน้าของเขาเห่อแดงขึ้นมา ในขณะที่ริมฝีปากเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายซ้ำไปซ้ำมาโดยไม่รู้ตัว

            “คิดถึงจัง...

            “อึก ไม่ได้คิดถึงผม.. อะ.. แต่คิดถึงตอนที่เอาผมอยู่เนี่ยนะ.. อ๊า!”ชานขยำกลุ่มผมสีเข้มของอีกฝ่ายแน่นเพื่อระบายอารมณ์ตอนที่ถูกคนเป็นพี่กระแทกเข้าหาจนสุดความยาวเหมือนเป็นการลงโทษที่พูดอะไรงี่เง่าแบบนั้นออกไป “อื้อ.. ควอนซูนยอง...

            “ถ้าไม่ได้ทำนานแล้วจะรู้สึกแบบนั้น.. อืม.. ฉันน่าจะทำทุกวันเลยเนอะว่าไหม?”

            “ฝันไปเถอะ...

            “พูดแบบนี้ก็อย่าอ้อนให้จูบตอนเช้าอีกล่ะ”

            “อ๊ะ! พี่.. อึก”

            ร่างบางครางไม่เป็นภาษาเมื่ออีกคนขยับกายเข้าหาถี่รัวจนแทบไม่มีช่องว่างให้เขาได้กอบโกยอากาศหายใจ กายบางที่โยกไปมาเพราะแรงกระแทกเรียวขาเล็กสั่นระริกเพราะความเสียวซ่าน แต่ก็กลับยกมันขึ้นเกี่ยวเอวคนบนร่างไว้ให้เข้ามาใกล้ชิดมากกว่าเดิมได้อย่างไม่นึกอายเหมือนก่อนหน้านี้

            จะให้บอกไปยังไงล่ะ..

            ว่าจริงๆ ก็ต้องการพี่เขาเหมือนกัน...

ารก็ไม่รั้้ากมงคงพิมพ์อะไรก็ไม่รัก็ได้นี่นาร้อมกับขมวดคิ้ว "ไปข้างในก่อนจิ








LOVEJAA
เหนแมะ คัทเบาๆ ใสๆ เพราะครูควอนเค้าเป็นคนอ่อนโยน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้าาาา





วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[Drabble]MINGCHAN|| My lovely bro

            หน้าที่ของหมิงฮ่าวตอนนี้คืออะไรน่ะเหรอ ก็คงจะคล้ายๆ กับพี่เลี้ยงเด็กล่ะมั้ง?

            “หมิงฮ่าว เรากินอันนี้ได้ไหม?”      

            “ได้ แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่หมิงฮ่าว จำบ้างไหมน่ะ?”ร่างโปร่งถามเด็กตัวเล็กตรงหน้าพร้อมกับยื่นมือไปโคลงหัวกลมไปมาอย่างนึกมันเขี้ยว และชานก็หัวเราะออกมา ยักไหล่ให้เป็นเชิงไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบคุกกี้ที่วางอยู่บนโต๊ะมากินตามที่ขออนุญาตเข้าไว้ก่อนหน้านี้

            เด็กหนุ่มชาวจีนนั่งเท้าคางมองคนเป็นน้องที่กำลังขะมักเขม้นกับการทำการบ้านพร้อมกับทำหน้าเซ็ง ถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่มันก็ดันดังพอให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่ตรงข้ามได้ยินแล้วขมวดคิ้วมองมายังเขา

            “เป็นอะไรอะ..

            “เปล่า แค่กำลังคิดว่าทำไมฉันต้องมานั่งดูนายทำการบ้านทั้งที่การบ้านฉันก็มี”

            “หมิงฮ่าวก็เอามาทำสิ เราไม่ว่าหรอกนะ ถ้าตอนไหนที่เราไม่เข้าใจหมิงฮ่าวค่อยมาสอนเราก็ได้”คนตัวเล็กพูดพร้อมกับทำตาใสมองหน้าเขา และหมิงฮ่าวก็ได้แต่ยิ้มก่อนจะส่ายหน้าตอบ

            “ได้ไงล่ะ มีหน้าที่ต้องดูแลนายก็ต้องดู เดี๋ยวแม่บ่น มันน่ารำคาญ”

            “ชิ”ชานทำหน้าบูด แยกเขี้ยวใส่คนเป็นพี่ก่อนจะก้มหน้าลงทำการบ้านต่อ แปลได้ว่าคงโดนงอนไปแล้ว แต่เขาก็ชินเกินกว่าจะง้อแล้วล่ะ เด็กคนนั้นน่ะงอนไม่นานก็หาย และส่วนมากที่งอนก็เพราะคำพูดขวานผ่าซากของหมิงฮ่าวนี่แหละมั้ง

            แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่..

            “มีตรงไหนไม่เข้าใจรึเปล่า? อ่านตัวจีนออกทุกตัวเหรอ?”

            “…..

            “เด็กอะไรขี้งอนจังวะ”

            “

            “โกรธเรื่องอะไรเนี่ย?”

            “เราไม่ชอบเวลาหมิงฮ่าวบอกว่ามาอยู่กับเราเพราะแม่สั่ง”ร่างโปร่งเลิกคิ้วสูงเมื่ออีกฝ่ายพูดทั้งที่ไม่เงยหน้ามองเขา “ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องก็ได้อะ เราไปขอให้พี่จวิ้นฮุยสอนให้ก็ได้ หมิงฮ่าวจะได้ไปทำอย่างอื่น..

            “ไม่ต้อง”คนเป็นพี่ขมวดคิ้ว รีบกดไหล่อีกคนไว้ก่อนที่ชานจะลุกขึ้นจากเบาะนั่ง คนตัวเล็กกว่าจึงหันมามองด้วยสายตาคาดโทษ และมันก็ทำให้เขารู้สึกหมั่นไส้เด็กคนนี้จนเผลอใช้สองมือหยิกแก้มขาวของอีกคนอย่างถือวิสาสะ “งอนเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ”

            “อื้อ.. ไม่ได้งอนสักหน่อยอะ”

            “ก็พูดถูกแหละ ที่อยู่ด้วยเพราะแม่สั่งจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเวลาอยู่กับนายมันไม่มีความสุขป่ะวะ?”หมิงฮ่าวว่า ปล่อยมือออกจากใบหน้าของคนเป็นน้องแล้วหลุดยิ้มออกมาเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าบูด “แล้วพี่จวิ้ยฮุยน่ะไม่ต้องไปอยู่กับมันมากเข้าใจไหม? จะเรียนภาษาจีนก็เรียนกับฉันนี่ แล้วทำไมถึงเรียกมันว่าพี่แล้วเรียกฉันหมิงฮ่าวเฉยๆ วะ?”

            “ก็หมิงฮ่าวไม่เหมือนเป็นพี่นี่”ชานพูดออกมาเสียงเบา จากที่ทำหน้าบูดอยู่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง อารมณ์นี่เปลี่ยนเร็วสมกับเป็นเด็กที่เข้าใจยากที่สุดในโลกจริงๆ “เราไม่โกรธแล้วก็ได้ แต่หมิงฮ่าวก็ต้องเลิกพูดเหมือนเบื่อเราได้แล้ว”

            “จ้ะ ไม่เบื่อ อยู่กับเด็กอย่างนายเนี่ยสนุกจริงๆ เลยเชียว”

            แต่ก็นั่นแหละนะ ถึงจะเป็นหน้าที่แต่ถ้าได้อยู่กับเด็กคนนี้ก็คงไม่เป็นไรหรอก...



[Drabble]SOLCHAN|| Little Gamer

            “มันไม่ได้อะ...

            ฮันซลหลุดขำพรืดออกมาเมื่อคนตัวเล็กที่นั่งอยู่หน้าตู้เกมพูดออกมาเสียงอ่อยพร้อมกับทำหน้าบูดให้เขา มือเล็กวางค้างอยู่ที่ปุ่มกดบนแผงเกม หันกลับไปมองหน้าจอที่ปรากฏคำว่า GAME OVER เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน และพอได้ยินเสียงเขาหัวเราะ ชานก็เอื้อมมือมาตีไหล่พร้อมกับแยกเขี้ยวใส่ด้วยท่าทีโมโห

            “หัวเราะอะไรเล่า!

            “ก็เห็นไม่ผ่านสักทีเลยตลก.. วันนี้เสียไปกี่เหรียญแล้วเนี่ย?”

            “ไม่รู้ดิ ไมได้นับ แต่มันไม่ผ่านจริงๆ นะ ผมกดเตะแล้วแต่มันไม่โดนอะ ทำไมอะ ตัวบอสมันผ่านยากขนาดนี้เลยเหรอ? ตู้นี้ต้องมีระบบอะไรผิดปกติแน่ๆ”

            “ก็พูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนี่ กากก็บอกว่ากากดิ”

            “ไม่ใช่สักหน่อย!”อีกฝ่ายพูดเสียงดัง เบ้ปากใส่เขาด้วยท่าทีไม่พอใจ และมันก็ทำให้ฮันซลหัวเราะออกมาอย่างนึกเอ็นดูคนเป็นน้อง ร่างเล็กมองค้อนมาที่เขา ลุกจากเก้าอี้ก่อนจะเดินตึงตังไปแลกเหรียญที่เคาเตอร์หน้าโซนเกมด้วยท่าทีอารมณ์เสีย เขาจึงได้แต่ยิ้มขณะมองตามไป และก็ต้องแสร้งทำหน้านิ่งเมื่อน้องเดินกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่ดูจริงจังมากกว่าเดิม

            วันนี้เราทั้งคู่พักงานออกมาเดินเล่น และเพราะผ่านร้านเกม ฮันซลก็เลยพูดขึ้นมาเป็นเชิงหาเรื่องคุยว่าวันก่อนมาเล่นกับพี่มินกยูและก็ผ่านด่านบอสของเกมนี้ไปแล้ว พอเด็กนั่นได้ยินก็เกิดฮึกเหิมอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ อยากจะเล่นให้ชนะบ้าง เพราะอย่างนั้นเราทั้งคู่ถึงได้มาอยู่ในร้านเกมนี้ตั้งนานสองนาน

            ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงมุ่งมั่นกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้ขนาดนั้น แต่ก็ช่างมันเถอะ ชานเวลาตั้งใจทำอะไรก็น่ารักดี

            “แน่ใจนะว่าจะไม่ให้เล่นให้?”

            “ไม่! ..ตอนนี้ยัง จะพยายามด้วยตัวเองก่อนแล้วถ้าไม่ได้ค่อยให้พี่เล่นให้”ฮันซลยิ้มขำขณะจ้องมองเสี้ยวหน้าของน้องเล็กอย่างนึกเอ็นดู สายตาจริงจังที่มองไปยังจอเกมขณะหยอดเหรียญนั่นเหมือนเด็กประถมไม่มีผิด ถ้ายังจริงจังกับเรื่องแบบนี้จะไปบอกใครว่าโตแล้วได้ยังไงล่ะเนี่ยไอ้เด็กน้อยเอ๊ย..

            ฮันซลจ้องมองหน้าจอตู้เกมที่ปรากฏให้เลือกตัวละคร และชานก็พูดพึมพำอะไรไปเรื่อยเปื่อยขณะเลือก เขาจึงค่อยๆ ยกมือถือขึ้นมาเปิดกล้องและก็กดถ่ายวิดีโออีกฝ่ายเล่นเกมไว้โดยที่เด็กคนนั้นไม่เห็นเพราะกำลังจริงจังกับเกมอยู่ หน้าชานดูจริงจังมาก และเขาก็ได้แต่บังคับตัวเองไม่ให้ขำอยู่เงียบๆ ขณะมองหน้าอีกคน

            จนสุดท้ายทุกอย่างก็จบลงเหมือนเดิม ชานแพ้ และก็หันมาทำหน้าบูดใส่เขาจนฮันซลเกือบจะซ่อนกล้องลงไม่ทัน ร่างสูงแกล้งหัวเราะออกมา กดปิดกล้องไปแล้วคุยกับน้องเหมือนปกติอีกครั้ง

            “สมน้ำหน้า”

            “งือ.. แพ้แล้วอะ เล่นให้เลย”ชานทำหน้าบูด จับแขนฮันซลไว้และออกแรงดึงให้มานั่งข้างๆ บนเก้าอี้เดียวกัน และเขาก็ยิ้มและแกล้งอีกฝ่ายด้วยการนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน “อะไรล่ะ บอกจะเล่นให้นี่ รีบลุกมาเร็ว”

            “อ้อนดีๆ หน่อย”ฮันซลยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกับมองหน้าคนตัวเล็กด้วยท่าทีท้าท้าย และชานก็ทำหน้าบูดใส่เมื่อได้ฟังอย่างนั้น “เร็วๆ ไม่งั้นวันนี้ก็ไม่ได้ผ่านนะ”

            “พี่เวอร์นอนเล่นให้เค้าหน่อยนะ~ นะๆๆๆ”ร่างสูงหัวเราะออกมาเสียงเบาเมื่อคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือทั้งสองข้างมาเกาะแขนแล้ววางคางเกยบนไหล่ พูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับทำตาใส่ และมันก็ทำให้เขาพยักหน้าหงึกหงักตกลง


            จะให้บอกยังไงล่ะว่าถึงไม่ทำก็เล่นให้อยู่แล้ว แค่อยากโดนอ้อนบ้างเท่านั้นเอง..



[Drabble]SOONCHAN|| AGAIN

            "ควอนซูนยอง?”

            ชานขมวดคิ้ว มองร่างสูงโปร่งที่ยิ้มกว้างให้ทั้งที่บรรยากาศไม่สมควรเท่าไหร่นัก ตอนนี้ก็ตีสองแล้ว ทำไมอีกฝ่ายถึงได้มากดกริ่งห้องเขาในเวลานี้.. แล้ว.. ทำไมถึงได้มาทั้งที่เราทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันมาเกินสองเดือนแล้ว.. อย่างน้อยหลังจากที่เลิกกันก็ไม่ได้เจอกันเลยน่ะนะ..

            แล้วนี่อะไรกัน ทำไมพี่เขามายืนยิ้มอยู่ที่หน้าห้องเหมือนเป็นเรื่องปกติแบบนั้น?

            “พี่มาทำอะไร..?”

            “มาหาเฉยๆ ไมได้เหรอ?”อีกฝ่ายพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งทั้งที่ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แต่คนตัวเล็กกว่าก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ เพราะยังไม่เข้าใจในสถานการณ์นี้เท่าไหร่นัก “ขอเข้าไปได้ไหม?”

            “มาหาผมแบบนี้ แฟนพี่ไม่ว่าอะไรรึไง?”

            “เลิกกันแล้ว”

            “!!!

            ชานเบิกตากว้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น ไม่รู้ว่าควรจะแสดงสีหน้าออกไปยังไงดี เขาควรจะรู้สึกยังไงในสถานการณ์นี้ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก.. แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ควอนซูนยองทำมันไม่ถูกสุดๆ.. เลิกกับเขาเพราะคนนั้น แล้วพอเลิกกับคนนั้นก็กลับมาหาเขาเนี่ยนะ?

            ใช่สิ.. สิ่งที่ชานควรจะทำคือผลักอีกคนออกไปให้ห่าง ปิดประตูห้องใส่หน้าควอนซูนยองแล้วกลับไปนอนซะ.

            แต่เขาก็ยังเดินหลบให้พี่ซูนยองเข้ามาในห้องเหมือนทุกอย่างปกติอยู่อีก

            นี่มันเรื่องเวรอะไรกันวะ

            ชานแสดงออกมาว่าอึดอัดอย่างชัดเจนในขณะที่อีกฝ่ายทำตัวปกติเหมือนเข้ามาในห้องนอนของเขาทุกวัน กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงของเขาอย่างถือวิสาสะ แถมยังหันหน้ามายิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

            ทำเหมือนว่าเราไม่ได้เลิกกัน พี่เขาไม่ได้มีคนอื่น เหมือนเรื่องทุกอย่างที่ทำให้เขาเศร้ามาก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ...

            “คิดถึงจัง”

            “….

            “กอดหน่อยนะ?”ซูนยองพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ยิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วดึงเขาเข้าไปกอดโดยไม่รอให้ตอบคำถามก่อน และชานก็ได้แต่หลับตานิ่งในอ้อมกอดของคนตัวสูงกว่า แล้วก็ยกแขนขึ้นกอดตอบตอนที่อีกฝ่ายกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นพร้อมกับซุกหน้าที่ลาดไหล่ของอีกคนด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้รู้สึกมานาน

            คิดถึงจริงด้วย..

            “เราคงไม่ชอบแน่เลยที่พี่เลิกกับเขาแล้วมาหานายแบบนี้.. แต่..พอโดนไล่ออกมาก็ดันคิดถึงนายเป็นคนแรกเลย พี่นี่แย่เนอะ

            “


            “หลังจากนี้ขอเริ่มต้นใหม่อีกครั้งได้ไหม?”