"ควอนซูนยอง?”
ชานขมวดคิ้ว
มองร่างสูงโปร่งที่ยิ้มกว้างให้ทั้งที่บรรยากาศไม่สมควรเท่าไหร่นัก
ตอนนี้ก็ตีสองแล้ว ทำไมอีกฝ่ายถึงได้มากดกริ่งห้องเขาในเวลานี้.. แล้ว..
ทำไมถึงได้มาทั้งที่เราทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันมาเกินสองเดือนแล้ว.. อย่างน้อยหลังจากที่เลิกกันก็ไม่ได้เจอกันเลยน่ะนะ..
แล้วนี่อะไรกัน
ทำไมพี่เขามายืนยิ้มอยู่ที่หน้าห้องเหมือนเป็นเรื่องปกติแบบนั้น?
“พี่มาทำอะไร..?”
“มาหาเฉยๆ
ไมได้เหรอ?”อีกฝ่ายพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งทั้งที่ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
แต่คนตัวเล็กกว่าก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ เพราะยังไม่เข้าใจในสถานการณ์นี้เท่าไหร่นัก
“ขอเข้าไปได้ไหม?”
“มาหาผมแบบนี้
แฟนพี่ไม่ว่าอะไรรึไง?”
“เลิกกันแล้ว”
“!!!”
ชานเบิกตากว้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น
ไม่รู้ว่าควรจะแสดงสีหน้าออกไปยังไงดี เขาควรจะรู้สึกยังไงในสถานการณ์นี้ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก.. แต่ที่แน่ๆ
สิ่งที่ควอนซูนยองทำมันไม่ถูกสุดๆ.. เลิกกับเขาเพราะคนนั้น
แล้วพอเลิกกับคนนั้นก็กลับมาหาเขาเนี่ยนะ?
ใช่สิ.. สิ่งที่ชานควรจะทำคือผลักอีกคนออกไปให้ห่าง
ปิดประตูห้องใส่หน้าควอนซูนยองแล้วกลับไปนอนซะ.
แต่เขาก็ยังเดินหลบให้พี่ซูนยองเข้ามาในห้องเหมือนทุกอย่างปกติอยู่อีก
นี่มันเรื่องเวรอะไรกันวะ…
ชานแสดงออกมาว่าอึดอัดอย่างชัดเจนในขณะที่อีกฝ่ายทำตัวปกติเหมือนเข้ามาในห้องนอนของเขาทุกวัน
กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงของเขาอย่างถือวิสาสะ แถมยังหันหน้ามายิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ทำเหมือนว่าเราไม่ได้เลิกกัน
พี่เขาไม่ได้มีคนอื่น
เหมือนเรื่องทุกอย่างที่ทำให้เขาเศร้ามาก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ...
“คิดถึงจัง”
“….”
“กอดหน่อยนะ?”ซูนยองพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
ยิ้มบางๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วดึงเขาเข้าไปกอดโดยไม่รอให้ตอบคำถามก่อน
และชานก็ได้แต่หลับตานิ่งในอ้อมกอดของคนตัวสูงกว่า
แล้วก็ยกแขนขึ้นกอดตอบตอนที่อีกฝ่ายกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นพร้อมกับซุกหน้าที่ลาดไหล่ของอีกคนด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้รู้สึกมานาน
คิดถึงจริงด้วย..
“เราคงไม่ชอบแน่เลยที่พี่เลิกกับเขาแล้วมาหานายแบบนี้.. แต่..พอโดนไล่ออกมาก็ดันคิดถึงนายเป็นคนแรกเลย
พี่นี่แย่เนอะ…”
“…”
“หลังจากนี้ขอเริ่มต้นใหม่อีกครั้งได้ไหม?”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น